เจาะพฤติกรรมผู้บริโภคปี 56 สื่อดิจิทัลกระตุ้นตัดสินใจซื้อ
flickr:8471661897

สรุปข่าว

บทวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคในปี 2556 ว่า สื่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยที่ผู้บริโภคในปัจจุบันจะเปิดรับทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ แต่ในท้ายที่สุดของการตัดสินใจซื้อจะใช้ออนไลน์ จากผลวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลต่อการซื้อสินค้าเทคโนโลยี และสินค้าเพื่อสุขภาพความงาม พบว่ารูปแบบการซื้อที่แตกต่างไปจากความเชื่อเดิม ตัวอย่างกลุ่มผู้หญิงที่มีความเข้าใจเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชาย พฤติกรรมการซื้อสินค้าเทคโนโลยี เช่น กล้องถ่ายรูป สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ มีการหาข้อมูลทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ไปพร้อมกัน ทั้งการสอบถามจากเซลส์จำหน่าย ดูการสาธิตสินค้า ถามเพื่อน อ่านจากนิตยสาร และค้นหาข้อมูลจากออนไลน์รีวิว 54% ค้นหากรุ๊ปดีล 36% เพื่อให้ได้สินค้าราคาพิเศษ หรือเข้าดูเว็บไซต์ร้านค้าปลีก 44%

ขณะที่พฤติกรรมการซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพ และความงาม กลุ่มผู้ชายอายุ 25-34 ปี มีการอ่านรีวิว ออนไลน์ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ แม้สินค้าราคาไม่แพงก็ตาม รวมทั้งสอบถามข้อมูลจากพนักงานขาย และผู้เชี่ยวชาญ ณ จุดขายก่อนซื้อสินค้า ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เดิมนักการตลาดมองว่า เป็นกลุ่มที่ "ไม่เปลี่ยนแบรนด์" พบว่า เป็นกลุ่มที่เปิดรับสื่อดิจิทัล มีการหาข้อมูลการซื้อสินค้าจากโซเชียล มีเดีย และพร้อมเปลี่ยนใจซื้อสินค้าแบรนด์อื่น หากให้ข้อเสนอด้านราคาและโปรโมชั่นดีกว่าแบรนด์เดิม

ผู้บริโภคในยุคนี้จะเปิดรับทั้งสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ในการตัดสินใจซื้อสินค้า แต่ช่วงเวลาท้ายสุดของการตัดสินใจซื้อ พบว่า กลุ่มอายุ 15-24 ปี จะใช้สื่อออนไลน์ ช่วยตัดสินใจซื้อมากที่สุด ได้แก่ ออนไลน์ รีวิว 41% ออนไลน์ เสิร์ช 40% ออนไลน์ วีดิโอ 37% เว็บไซต์ของแบรนด์ 35% โมบาย เสิร์ช 35% และเว็บไซต์ร้านค้าปลีก 32%

ขณะที่กลุ่มผู้บริโภคอายุ 25-34 ปี พบว่า ใช้สื่อออนไลน์ช่วยตัดสินใจซื้อช่วงเวลาท้ายสุด คือ เว็บไซต์แบรนด์ 46% เว็บไซต์ร้านค้าปลีก 40% และ โมบายเสิร์ช 31% และกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปนั้น พบว่า ใช้สื่อออนไลน์หาข้อมูลสำหรับการตัดสินใจซื้อช่วงเวลาสุดท้าย คือ ออนไลน์เสิร์ช 47% เว็บไซต์แบรนด์ 48% และเว็บไซต์ร้านค้าปลีก 50%

ผลวิจัยพฤติกรรมดังกล่าว มองว่า ร้านค้าปลีกต้องปรับตัวด้านเครื่องมือสื่อสาร และช่องทางจำหน่าย ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาได้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว จากการพัฒนาช่องทาง ชอปปิง ออนไลน์ของกลุ่มค้าปลีก เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ บิ๊กซี เทสโก้ฯ

จากผลวิจัย สื่อดิจิทัล กำลังมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคมากขึ้น จากแพลตฟอร์มดิจิทัลหลากหลาย ถือเป็นปัจจัยสำคัญมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภคในยุคนี้

บทวิเคราะห์

จะเห็นได้ว่า สื่อดิจิตอลมีอิทธิพลอย่างมากต่อการกำหนดวิธีคิด ทัศนคติ และการดำเนินชีวิต แทบจะทุกกิจกรรมในแต่ละวันจะมีสื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาทแทบทั้งสิ้น ใน Report นี้จะพูดถึง สื่อดิจิตอลที่มีผลต่อการขับเคลื่อนของโลกในหลายมิติ

บทบาทของสื่อดิจิตอลในปัจจุบัน

ด้านสังคม
ในปัจจุบัน มีปรากฏการ์ณที่น่าสนใจ เรียกว่า “ MultiScreen” คือการรับสื่อออนไลน์ผ่านหลายช่องทางในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ชมโทรทัศน์ ก็จะใช้ Tablet หรือ Smart Phone แชทและอัพเดต Social Network ไปพร้อมกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการที่สื่อดิจิตอลมีบทบาทมากขึ้น ปัจจุบัน เรายอมรับว่า Social Network และ Real Social เป็นกระจกที่สะท้อนกันและกัน สังคมออนไลน์สามารถบอกอะไรหลายอย่างถึงสภาพสังคมจริง อีกทั้งยังเป็นการ Form โลกและสังคมในอนาคตอีกด้วย

ด้านการเมือง
การหาเสียงเลือกตั้งในปัจจุบันได้นำสื่อ Social Network อย่าง Facebook และ Twitter นำมาใช้สร้างความรู้จักกับผู้สมัคร เห็นได้ชัดจากกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา ที่มีการคาดการ์ณว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดี จากการเก็บสถิติว่า ผู้สมัครคนใดมีคน Post และพูดถึงมากที่สุด ใน Facebook และที่น่าสนใจคือ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับอิทธิพลในการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีจากความคิดของผู้นำทางความคิดใน Social Network

ด้านธุรกิจ
ทุกวันนี้เราจะเห็นหลายธุรกิจตื่นตัวกับสื่อดิจิตอลเป็นอย่างมาก ไม่เพียงธุรกิจ SME แต่ธุรกิจใหญ่ที่มีแบรนด์เป็นที่รู้จัก และมียอดขายสินค้าที่สูงอยู่แล้ว ก็หันมาเพิ่มช่องทางขายสินค้าออนไลน์และการสื่อสารการตลาดผ่าน Social Network โดยการกด Like Facebook หรือผ่านการ Download Sticker Line เพราะปัจจุบันผู้บริโภคมักจะหาข้อมูลสินค้าและบริการจากทางสื่ออินเตอร์เนตก่อนการตัดสินใจซื้อ

มีข้อมูลทางสถิติที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้น่าสนใจว่า Social Network มีอิทธิพลต่อความสนใจในสินค้าหรือไม่ ได้สำรวจโดยเก็บกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 18-49 ปี พบว่า จาก 39% ของกลุ่มตัวอย่างทั่วไปและ 67%ของกลุ่ม Digital Trendsettrers ** มีปฏิสัมพันธ์ในระดับที่บ่อยกับแบรนด์หรือบริษัทที่มีการทำการตลาดผ่าน Social Network

flickr:8471662055

จะเห็นได้ว่า อิทธิพลของสื่อดิจิตอลเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ อีกทั้ง ในปี 2556 การเข้าถึงสื่อออนไลน์จะกระจายไปสู่กลุ่มคนจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจาก 3G และราคามือถือที่ถูกลง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้อย่างเหมาะสม จะสามารถลด Cost และเพิ่มขีดความสามรถในการแข่งขันได้ ในที่นี้ จะยกตัวอย่าง ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ การอ่านหนังสือในรูปแบบเล่มกำลังจะถูกแทนที่ด้วย E Book ซึ่งไม่ต้องอาศัยระบบโลจิสติกในการขนส่งและกระจายสินค้า ซึ่งทำให้ ประหยัดต้นทุนสูงไปได้มากสำหรับธุรกิจ อีกทั้งผู้ซื้อก็สามารถซื้อหนังสือได้ในราคาที่ถูกลง

สื่อดิจิตอลในอนาคต
ก่อนหน้านี้ที่การรับสื่อจะผ่านช่องทางวิทยุและโทรทัศน์ แต่ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธว่า เป็นยุคของสื่อดิจิตอล สิ่งที่ทำให้สื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในการกำหนดพฤติกรรม รวมไปถึง มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะ

1. มีลักษณะเป็น Two Way Communication เราไม่เพียงแต่เป็นผู้รับชมหรือผู้รับฟังเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเขียนแสดงความคิด แชร์รูปภาพ วิดิโอของเราให้คนทั่วโลกได้เห็น ทำให้สื่อดิจิตอล เป็นแหล่งรวมข้อมูลที่หลากหลาย

2. การเข้าถึงเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว มีเพียงสัญญาณอินเตอร์เนตและคอมพิวเตอร์ Laptop หรือโมบายโฟน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลจากทั่วโลกได้

ในอนาคต สื่ออินเตอร์เนตจะเข้ามาลบข้อจำกัดของเวลาและสถานที่ การใช้ Teleconference และการมี System ที่มีประสิทธิภาพเข้ามา Support ด้านการทำงาน ให้สะดวกรวดเร็ว ในท้ายที่สุด การนั่งทำงานในออฟฟิศอาจเปลี่ยนเป็นทำงานที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีระบบการส่งผ่านเอกสารและพูดคุยสื่อสารกันได้

สำหรับด้าน E-Commerce ในอนาคตการซื้อขายออนไลน์จะมีลูกเล่นต่างๆที่ Support ให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อสินค้าทางออนไลน์ง่ายขึ้น ข้อจำกัดและข้อเสียของการซื้อขายออนไลน์จะค่อยๆหมดไป ความกลัวว่าซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าออนไลน์ต้องเสี่ยงกับ Size ที่ไม่พอดี จะถูกแทนที่ด้วยโปรแกรม“ลองใส่ออนไลน์ ” ที่มี Function ในการ Scan รูปร่างหรือเท้าของเราจริงๆ จากนั้นก็คำนวณเพื่อเทียบเคียงกับขนาดของเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่จะกำลังตัดสินใจซื้อว่าใส่แล้วสวยและพอดีหรือไม่

ข้อจำกัดอีกข้อสำหรับการซื้อขายออนไลน์ คือ ระบบการชำระเงิน ความปลอดภัยและความสะดวกรวดเร็ว เป็นหัวใจสำคัญที่เจ้าของสินค้าควรจะพัฒนาให้มีระบบที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้ได้

Reference:

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1358483041&grpid=03&catid=11&subcatid=1103
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/global/20121203/480626/ทีวีดาวเทียม-สื่อดิจิทัล-เทรนด์แรงโกยงบโฆษณา.html
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/global/20121210/481608/MULTISCREEN-เมื่อคนเราไม่ได้มีแค่หนึ่งจอ.html
http://www.marketingoops.com/reports/genx-geny-trend/
http://www.creditonhand.com/itnews.asp?ID=3337
http://thesystem.co.th/thesystem/news/show_tips.php?id=MTAwMDA0NTc=

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License