ไอซีที ผนึกหน่วยงานใต้สังกัด ประกาศผลักดันสมาร์ทไทยแลนด์

ไอซีที ผนึกหน่วยงานใต้สังกัด ประกาศผลักดันสมาร์ทไทยแลนด์
ข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ : วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556

สรุปข่าว

ในปี 2556 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มุ่งดำเนินโครงการเพื่อทำให้ไอซีทีเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ และทำให้ประเทศก้าวไปสู่การเป็นสมาร์ทไทยแลนด์ ซึ่งมีโครงการต่างๆดังนี้

1.โครงการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network หรือ GIN) ดำเนินการเชื่อมต่อหน่วยงานภาครัฐไปแล้วกว่า 2,000 หน่วยงาน และมีเป้าหมายจะเชื่อมต่อลงไปถึงระดับท้องถิ่นหรือตำบลที่อยู่ห่างไกล

2.โครงการบริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service) ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางให้หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยกำหนดความต้องการด้านไอซีที ร่วมกันแบบบูรณาการ และมอบหมายให้กระทรวงไอซีที และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ.เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาและแบ่งปันระบบลงบนเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Cloud Service” ซึ่งจะลดการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ของหน่วยงานภาครัฐลงไปมาก จะทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้ถึง 40-50% โดยในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ว่าจะให้มีการขยายการให้บริการด้าน “Software as a Service” มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถวางระบบได้เร็วขึ้นจาก 2 ปี เป็น 2 สัปดาห์

สำหรับด้านความมั่นคงปลอดภัยบนโลกไซเบอร์นั้น ให้ความสำคัญมาก และได้ประชุมหารือร่วมกับกลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศในระดับรัฐมนตรี ซึ่งในที่ประชุมให้ความสำคัญกับเรื่องการกำหนดมาตรฐาน และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้บนโลกไซเบอร์

3. โครงการพัฒนากรอบแนวทางการเชื่อมโยงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ Thailand e-Government Interoperability Framework (TH e-GIF) กระทรวงไอซีทีได้รับมอบหมายให้นำข้อมูลเชิงเดี่ยวของแต่ละหน่วยงานมารวบรวมกันไว้ทำเป็นข้อมูลเชิงซ้อน เพื่อกำหนดแนวทางการนำข้อมูลที่บูรณาการแล้วไปประยุกต์ใช้ หรือเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารในการตัดสินใจ ซึ่งในต้นปีนี้กระทรวงไอซีทีได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำโครงการ Smart Farmer/Smart Officer 1 บัตรประจำตัวประชาชนเพื่อเกษตรกรปราดเปรื่อง (One ID Card for Smart Farmer) เป็นโครงการนำร่องในการบูรณาการข้อมูลของประชาชนเข้าด้วยกัน

4. โครงการบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service นั้นกระทรวงฯ ได้มีแนวทางในการร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. เพื่อกระตุ้นให้ทุกหน่วยงานของรัฐทุกกระทรวงมีการพัฒนา และให้ความสำคัญกับการให้บริการ e-Service มากขึ้น ตามแนวความคิดที่ว่า 1 หน่วยงาน 1 e-Service ด้านโครงการ National Single window เป็นการร่วมมือของ 36 หน่วยงาน ซึ่งกระทรวงไอซีทีก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้ดำเนินงานไปเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่าก่อนจะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 การเชื่อมต่อหน่วยงานทั้ง 36 หน่วยงานจะสามารถใช้งานได้จริง และเป็น One Stop Service อย่างเต็มรูปแบบ

5.โครงการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที มีแนวทางผลักดันให้เกิดการจัดตั้งสถาบันไอซีที หรือ ไอซีทีอะคาเดมี เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ แก่บุคลากรทุกภาคส่วนโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารที่ต้องนำไอซีทีมาใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาประเทศอย่างชาญฉลาด และรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

6.โครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ โครงการไอซีทีฟรีไวไฟ ไวไฟ ในปี 2555 ที่ผ่านมา
อัตราการเข้าถึงไอซีทีของคนไทยมีแนวโน้มที่สูงขึ้น และในปี 2556 มีการพัฒนาของเทคโนโลยีมากขึ้น ราคาที่ปรับตัวต่ำลงทั้งราคาค่าบริการและราคาของอุปกรณ์ รวมถึงการบริหารจัดการ การออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ ซึ่งทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีแนวทางที่ชัดเจนซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงไอซีทีได้มากขึ้น ซึ่งในปี 2555 กระทรวงฯ ได้กำหนดจุดเชื่อมต่อไวไฟ ไว้ 4 หมื่นจุด แต่ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 1 แสนจุด ถือว่าเกินกว่าที่ได้ตั้งเป้าไว้ และในปี 2556 ได้กำหนดให้มีการติดตั้งเพิ่มเป็น 150,000 จุด ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกรอบการทำงานของกระทรวงไอซีทีในปี 2556 โดยหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีทุกหน่วยงาน ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ ทีโอที กสท ไปรษณีย์ไทย สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ได้กำหนดนโยบายแผนงานและโครงการของแต่ละหน่วยงาน ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและของกระทรวงฯ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นสมาร์ทไทยแลนด์ตามเป้าหมายที่วางไว้

บทวิเคระห์

ตามที่ปัจจุบัน IT นั้นเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน และทางด้านธุรกิจ เป็นอย่างมาก ซึ่งนโยบายทางด้านใน IT ของรัฐบาลจึงมีบทบาทสำคัญทั้งทางด้านธุรกิจและการทำงานของหน่วยราชการซึ่งส่งผลต่อประชาชนโดยส่วนใหญ่

ดังนั้นการที่ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) มีนโยบายดำเนินการโครงการ ต่างๆ ดังนี้

1.โครงการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network หรือ GIN)
2.โครงการบริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service)
3.โครงการพัฒนากรอบแนวทางการเชื่อมโยงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ Thailand e-Government Interoperability Framework (TH e-GIF)
4.โครงการบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service
5.โครงการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที จัดตั้งสถาบันไอซีที หรือ ไอซีทีอะคาเดมี
6.โครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ โครงการไอซีทีฟรีไวไฟ ไวไฟ

ซึ่งโครงการต่างๆนี้ส่งให้เกิดผลดีและผลกระทบในหลายด้าน ดังนี้

1.โครงการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network หรือ GIN) นั้นทำให้เกิดการเชื่อมโยงของหน่วยงานภาครัฐเข้าด้วยทั้งจนถึงระดับท้องถิ่น ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานเนื่องจากข้อมูลเชื่อมโยงกัน และทำให้ประชาชนที่ใช้บริหารจากหน่วยงานราชการสะดวกและคล่องตัวขึ้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้คือ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ( สรอ. )

2 โครงการบริการระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud Service) โครงการนี้จะช่วยลดการลงทุนด้านHardware และ Software ของหน่วยงานรัฐบาลลงไปได้ ประมาณ 40-50% หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนี้คือ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ( สรอ. )

3. โครงการพัฒนากรอบแนวทางการเชื่อมโยงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ Thailand e-Government Interoperability Framework (TH e-GIF)
โครงการนี้ก่อให้เกิดผลดีคือนำเอาข้อมูลเชิงเดี่ยวของแต่ละหน่วยงานมารวบรวมกันไว้ทำเป็นข้อมูลเชิงซ้อน เพื่อจะได้นำข้อมูลที่บูรณาการแล้วไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

4. โครงการบริการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Service ทำให้ประชาชนสามารถใช้บริการของหน่วยงานรัฐบาลได้โดยใช้ e-service ผ่านทาง Internet ทำให้ได้รับความสะดวกมาขึ้น ซึ่งตัวอย่างโครงการเช่น
- บริการตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
- ระบบบริการสอบถามปัญหากฎหมายผ่านอินเตอร์เน็ต สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สำนักงานอัยการสูงสุด)
-. ระบบการขออนุญาตกระทำการใดๆในเขตทางหลวงผ่านอินเตอร์เน็ต (กรมทางหลวง)
- บริการตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ( หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ )

5. โครงการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที จัดตั้งสถาบันไอซีที หรือ ไอซีทีอะคาเดมี โครงการนี้ทำให้บุคลากรนั้นมีความรู้ ความเข้าใจด้าน IT แล้วนำไปใช้พัฒนางานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดผลดีทั้งเศรษฐกิจและสังคม

6. โครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ โครงการไอซีทีฟรีไวไฟ ไวไฟ โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำให้ประชาชนได้เข้าถึง Internet ได้ง่ายขึ้นโดยมีการขยาย เพิ่มจุดเชื่อมต่อ Wifi ซึ่ง ทาง ICT ได้ร่วมมือกับ TRUE ภายใต้โครงการ “ ICT Free WiFi by TRUE” ตั้งเป้าติดตั้ง 3 แสนจุด ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ภายในไตรมาส 2 ปี 2556 ซึ่งเมื่อการเข้าถึง Internet เป็นไปอย่างกว้างขวาง ทำให้ ธุรกิจที่ซื้อขายทาง Internet ขยายตัวขึ้น และเข้าถึงข้อมูลต่างๆง่ายขึ้น

จากข้อดีต่างๆที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าวนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม อาทิเช่นลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐลงในการลงทุนด้วย Hardware และSoftware จาก Government Cloud Service และ การทำงานของหน่วยงานรัฐที่มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นจากการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน รวมถึงการใช้บริการผ่านทาง E-Service ของหน่วยงานรัฐ ทำให้ประชาชนได้รับบริการจากหน่วยงานของรัฐที่ดีขึ้นสะดวกขึ้น และการที่ขยายการให้บริการ Internet High speed ผ่าน Free Wifi ก็จะทำธุรกิจที่มีการซื้อขาย ผ่านทาง Internet ด้วย E-commerce ขยายตัวมากขึ้นเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค

Reference :
http://www.thairath.co.th/content/tech/324880 ไอซีที ผนึกหน่วยงานใต้สังกัด ประกาศผลักดันสมาร์ทไทยแลนด์
http://www.thairath.co.th/content/tech/324084 ซิป้า'ดึงใช้ซอฟต์แวร์ ลดต้นทุน-เพิ่มมูลค่า ตั้งเป้าศก.ไทย5แสนล้าน
http://www.thairath.co.th/content/tech/324241 ไอซีที จับมือ ทรู เปิดบริการไอซีทีฟรีไวไฟ คาดสิ้นปีกระจาย3แสนจุดทั่วปท.
http://tkc.go.th/%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5-2/ โครงการ E-Service

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License