เคล็ดลับการใช้ Social Media เพิ่มยอดขาย

เคล็ดลับการใช้ Social Media เพิ่มยอดขาย

สรุปเนื้อข่าวต้นฉบับ
เมื่อเราพูดถึงสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ก็จะต้องนึกถึง Facebook และ Twitter ทั้งสองเว็บไซต์เป็นสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่มีสมาชิกใช้ในการติดต่อสื่อสารกันจำนวนมาก ผู้คนส่วนใหญ่มักใช้ในพูดคุย แลกเปลี่ยนสื่อสารกัน จากสถานที่ต่างๆ ในมุมมองของผู้ประกอบการนั้น Social Media เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากในการทำการตลาดสินค้าและบริการไปสู่เป้าหมายจำนวนมาก
ความสามารถในการแปรเปลี่ยน Facebook Like และ Twitter Follower ไปสู่การขาย ได้รับความนิยมจากนักการตลาดบนอินเทอร์เน็ต (Internet Marketer) จำนวนมาก แม้ว่าจะฟังดูเหมือนว่าเป็นเรื่องง่ายในการโปรโมทหน้าเพจหรือโน้มน้าวให้คนนั้นมาติดตาม (Follower) แต่ก็มีนักการตลาดบนอินเตอร์เน็ต (Internet Marketer) จำนวนไม่น้อยที่ประสบความล้มเหลว เพราะอะไรพวกเค้าถึงไม่ประสบความสำเร็จ รายละเอียดที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นความผิดพลาดในการใช้ Social Media ที่คุณควรหลีกเลี่ยง
• อัพโหลดรูปภาพไม่เหมาะสม
• ไม่ทำการโพสต์ (post) หรือแสดงเนื้อหา (content) เป็นเวลานาน
• ตอบกลับความคิดเห็นหรือคำถามช้าเกินไป
• ทำการโพสต์ หรือ ทวีส (tweet) เนื้อหาเดิมๆ มากเกินไป
• ปล่อยให้คนเขียนข้อความที่ไม่ดีบน Wall หรือคอมเมนต์บนโพสต์ของคุณ
•ทำการสื่อหรืออัพเดทโปรโมชั่น เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด
เราเชื่อว่าสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) สามารถช่วยให้คุณหาลูกค้าที่มีศักยภาพและเพิ่มยอดขายของคุณได้ในเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามการที่คุณจะสื่อสารกับผู้คน คุณต้องมั่นใจว่าคนที่มาติดตามทวิตเตอร์ (Twitter Follower) และคนที่กด like เพจของคุณนั้นมีความสนใจในตัวคุณและธุรกิจของคุณ แล้วจะทำยังไงล่ะ? เรามีข้อแนะนำและเคล็ดลับในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เพื่อทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจของคุณ
1. ปรับปรุงวิธีการโต้ตอบของคุณ แน่นอนว่าคุณต้องสามารถอัพเดท status หรือ tweet ได้ทุกๆ ชั่วโมง แต่ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้ข้อความของคุณได้รับการโต้ตอบหรือดึงดูดความสนใจ คุณต้องทำการแชร์เนื้อหาที่เกี่ยวกับตัวคุณหรือสินค้า ในรูปแบบของโปรโมชั่นหรือเรื่องตลกๆ ที่ไม่ดูเครียดหรือจริงจังเกินไป
2. อัพเดทหน้า status หรือ tweet ข้อความในชั่วโมงที่เร่งด่วน ซึ่งมันเป็นการทดสอบที่ดีว่าคุณควรจะทำการ post ในช่วงเวลาใด ที่คุณจะได้รับ Comment , Share , กด like จำนวนมาก
3. ตรวจสอบการแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอ การแจ้งเตือนจะบอกคุณว่ามีการคอมเมนต์บน status และการแชร์รูปภาพของคุณ มันจะช่วยให้คุณตอบความคิดเห็นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทำการ tag เมื่อตอบโต้ข้อความแล้ว
4. ใส่ลิงค์ในโพสต์ของคุณ ลิงค์สามารถนำไปสู่เว็บไซต์หลัก ,บล็อค (Blog) ,วิดีโอ บทความ และข่าวประชาสัมพันธ์ ของคุณ โดยการใส่วลีคำว่า “ อ่านหรือดูข้อมูลเพิ่มเติม”
ยังมีเคล็ดลับอีกหลายอย่าง ที่จะช่วยปรับปรุงธุรกิจหรือหน้าแฟนเพจ (Fan Page) ของคุณให้มียอดผู้ชมมากขึ้น ถ้าคุณหลีกเลี่ยงจากข้อผิดพลาดดังกล่าวข้างต้นและปฏิบัติตามเคล็ดลับในการปรับปรุงหน้าสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ของคุณ มั่นใจได้อย่างแน่นอนเลยว่าคุณจะได้รับประโยชน์ด้านการตลาดจากเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) สำหรับธุรกิจของคุณ
…………………………………………………………..
เนื้อหาข่าว :ข่าววันที่ 24 มกราคม 2556 ที่มา http://www.smeclinic.in.th/Article-detail/

วิเคราะห์เนื้อข่าวต้นฉบับ
เนื้อข่าวพูดถึงสื่อสังคมออนไลน์ หรือ Social Media ซึ่งในปัจจุบันมีอิทธิพลต่อการติดต่อสื่อสารของมนุษย์ที่สามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารตลอดจนการใช้เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายและเป็นแหล่งที่สามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิพล
โดยได้ยกตัวอย่าง 2 เว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานและเป็นที่นิยมมากที่สุด 2 เว็บไซต์ อันได้แก่ Facebook และ Twitter ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของนักทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต แต่แม้ว่าจะมีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก แต่ผู้ประสบความสำเร็จก็ต่างขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงมารยาทในการใช้งานอาทิ การอัพโหลดรูปภาพที่ไม่เหมาะสม การควบคุมถ้อยคำที่ไม่สุภาพบนหน้า Wall ของคุณ ตลอดจนการพยายามรักษาน้ำใจผู้ที่ตั้งคำถามด้วยการตอบโดยเร็ว เป็นต้น อันจะส่งผลดีต่อการทำตลาดบนอินเตอร์เน็ต
เพราะการใช้ Social Media มีข้อดีตรงที่เราจะได้กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องมีเทคนิคในการทำตลาดบนอินเตอร์เน็ต เช่น การโต้ตอบกับลูกค้าอย่างฉับไวและให้เนื้อหาสินค้าได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงแสดงความเป็นตัวตนของคุณที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ตลอดจนการอัพเดทโปรโมชั่นต่างๆ
อัพเดทสถานะต่างๆ ที่ทันสมัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะตรวจสอบว่ามีคนมาให้ความเห็นใดๆ หรือไม่ เพื่อที่จะตอบกลับได้อย่างรวดเร็ว และใส่ลิงค์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ลูกค้าได้รับข้อมูลในการตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายดาย
จากบทความนี้ชี้ให้เห็นถึงกลวิธีในการครองใจลูกค้าผ่าน Social Media ที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างหนึ่งที่นับว่าทรงอิทธิพลเป็นอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลและสามารถเชื่อมผู้คนได้อย่างกว้างขวางทั่วทั้งโลก นอกจากนี้ก็ยังย้ำเตือนให้นักการตลาดบนอินเตอร์เน็ตได้ทราบว่า แม้การเข้าถึงเว็บไซต์จะง่ายดายแต่การประสบความสำเร็จนั้นยาก และไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ หากไร้ซึ่งความใส่ใจในลูกค้า หรือการอัพเดทอยู่เสมอนั่นเอง

ข้อดีของการทําการตลาดผ่าน Social Media
1. สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงเพราะข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับผู้บริโภค ลดการสูญเปล่าจากการใช้สื่อ
2. สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเภทได้
3. ประหยัดเวลาเพราะใช้เวลาในการผลิตสื่อไม่มาก
4. ต้นทุนในการทำสื่อต่ำและสามารถปรับเปลี่ยนข้อมูลให้ดูสวยงามสะดุดตาได้ตลอด

ข้อเสียของการทำการตลาดผ่าน Social Media
1. ถ้าทำการตลาดหรือโฆษณาไม่ดีพอ ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ค้นหาโฆษณาไม่เจอ
2.เรื่องของ Spam ที่อาจมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง

8473713884_49d42852bb.jpg

ด้วยสถิติจากแผนภูมิข้างต้นพบว่า จำนวนผู้ใช้ Social Media ในเว็บไซต์อย่าง Facebook มีอัตราการเจริญเติบโตเป็นอย่างยิ่งถึงกว่า 91% ในเวลาเพียง 12 เดือนในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย หรือบราซิล โดยมีจำนวนผู้ใช้เฉลี่ยรวมทั่วโลกกว่า 153.3 ล้านคนในปี 2011 ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว ซึ่งก็แสดงให้เห็นอิทธิพลของ Social Media ที่ทวีความสำคัญในการทำการตลาดมากขึ้นบนสังคมอินเตอร์เน็ต

8472704393_8980512d36.jpg

ในปี 2012 Facebook มีสมาชิกมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การเข้าใช้งานเฉลี่ยนั้น ครั้งละ 20 นาที มี 600 ล้านคนที่เข้าใช้ผ่านมือถือและผู้ใช้งานเป็นผู้หญิง 57% ผู้ชาย 43% ในแต่ละวัน มีภาพถูกส่งขึ้นวันละ 300 ล้านภาพ มีการปฏิสัมพันธ์ Like และ Comment 3.2 ล้านครั้ง 80% ของธุรกิจมีการใช้ Facebook เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 70 ภาษา ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบัน อย่างเช่น กรณีของ Facebook ก็แสดงให้เห็นอิทธิพลของ Social Media ที่ทวีความสำคัญมากขึ้นบนสังคมอินเตอร์เน็ต

การวิเคราะห์ SWOT Analysis

Strenghts
มีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการหรือกลุ่มเป้าหมายสูง
สามารถใช้งานได้ง่ายและเข้าถึงได้ง่าย
มีการปรับปรุงการเข้าถึงผ่านระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย
มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก

Weaknesses
มีผู้สมัครเข้าใช้งานจำนวนมากและหลายรายไม่น่าเชื่อถือ
มีการละทิ้งการใช้งานสูง แสวงหาเจ้าของยาก
ปลอมแปลงง่ายและก่อให้เกิดอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตสูง
มีผู้ไม่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมากเช่นกัน

Opportunities
มีเทคโนโลยีรองรับได้ในหลายระบบปฏิบัติการมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีสูง ประเทศพัฒนาแล้วใช้ได้ดี
การศึกษาทำให้คนสามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ผู้ใช้เพิ่มง่ายอุปกรณ์การเข้าถึงมีให้เลือกหลากหลายและราคาไม่แพง

Threats
สื่ออื่นๆ มีความน่าเชื่อถือกว่า เพราะมีตัวตนชัดเจนมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของกระแส IT
มีสื่อใหม่อยู่เสมอและอาจไม่ได้รับความนิยมไปอย่างรวดเร็วในประเทศด้อยพัฒนาอาจไม่ได้รับความนิยม

ข้อมูลเพิ่มเติม

ทุกวันนี้เวลากล่าวถึงธุรกิจยุคใหม่ที่มีอินเทอร์เน็ตเข้าไปเกี่ยวข้อง หลายคนยังใช้คำคำหนึ่งซ้ำซ้อนกันอยู่ นั่นคือคำว่า “Social Network” และ “Social Media” แต่อันที่จริงแล้ว คำ 2 คำนี้มีความแตกต่างกันในแง่การใช้งานอยู่เล็กน้อย คือคำหนึ่งใช้เรียกในเชิงคอนเซ็ปต์ อีกคำหนึ่งใช้เรียกภาพรวมของตัวบริการ โดยสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้
วิกิพีเดียนภาษาอังกฤษได้ระบุว่า Social network เป็นคำที่ใช้เรียกคอนเซ็ปต์ “โครงสร้างทางสังคม” แบบหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวกันของคน ซึ่งเขาและเธอจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยหลายๆ ปัจจัย เช่น เป็นเพื่อนกัน, เป็นเครือญาติกัน, มีความสนใจที่เหมือนกัน, มีความเชื่อที่เหมือนกัน, ตลอดจนรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด หรือประสบการณ์

8472676397_a275b1c5e1.jpg

จากกราฟความสัมพันธ์ของคนในเครือข่ายะเห็นว่ามันซับซ้อนมากๆ และยิ่งเราดูไปก็จะพบว่ามีรูปแบบของ Ties หลายแบบระหว่าง Nodes ต่างๆ โดยตัวเลขที่ได้ทำการวิจัยมาแล้วระบุว่า Social Network มีอยู่หลายระดับ จากระดับครอบครัว ระดับองค์กร ระดับประเทศ จนถึงระดับโลก และการที่คนสัมพันธ์กันในรูปแบบเครือข่ายนี้เองที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตของคนในหลายๆ ทิศทาง อย่างรูปข้างล่างนี้ เป็นกราฟที่มาจาก LinkedIn Social Media ของคนทำงานชื่อดัง ดังตัวอย่างโดยจำลองให้ สีน้ำเงินคือเพื่อนที่ทำงานในประเทศไทย ส่วนสีเขียวคือเพื่อนที่ทำงานในต่างประเทศ และสีส้มเป็นเพื่อนต่างวงการ ก็จะทำให้เราเห็นว่าเรามี Nodes จำนวนมาก แต่ว่า Ties ของเราแบ่งออกเป็น 3 แบบแบ่งไปตามพื้นที่ที่เพื่อนร่วมงานอยู่
โดยรวมแล้ว Social Network หนึ่งๆ การพูดถึงความสัมพันธ์ในเชิงคอนเซ็ปต์ นั่นคือแผนที่ที่ระบุว่า Nodes แต่ละ Nodes มีความสัมพันธ์กันอย่างไร เช่น คนที่เป็นเพื่อนกัน โดยคนที่สัมพันธ์กันใน Social Network ก็จะถูกเรียกว่าเป็น Social contacts ของกันและกัน นอกจากนี้เมื่อพูดกันไปลึกๆ แล้วยังมีเรื่องที่ว่าเมื่อเราเข้าไปอยู่ใน Social Network แล้ว แต่ละคนมี Social capital กันแค่ไหนอย่างไรอีกด้วย
ส่วนคำว่า Social Media นั้น หมายถึงการใช้บริการ web-based และเทคโนโลยีทางด้าน mobile ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารไปสู่การปฎิสัมพันธ์โต้ตอบกันมากขึ้น นักวิชาการอย่าง Andreas Kaplan และ Michael Haenlein ได้นิยาม Social Media ว่า “กลุ่มของแอพพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตที่สร้างบนระบบความคิดอันเป็นรากฐานของสังคม และทางเทคโนโลยี ด้วยแนวความคิดของ Web 2.0 และเปิดให้คนแลกเปลี่ยนเนื้อหาที่เกิดจากผู้ใช้” ความหมายของมันจึงเป็นการพูดถึงบริการต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว เช่น Facebook, Twitter, Google+, LinkedIn ฯลฯ

8472689741_c47fd3f68f.jpg

แม้ปัจจุบันธุรกิจไทยมีการใช้ Social Media กันอย่างแพร่หลาย เท่าที่สังเกตจะเห็นได้ว่าใช้โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มยอดขายในระยะสั้นเสียมากกว่า คือมองเป็นเครื่องมือในการขาย (Sale Tool) มากกว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาด (Marketing Tool) ทั้งนี้จะสังเกตได้จากการที่หลายๆ กิจการพยายามเพิ่มจำนวน Fans ใน Facebook หรือเพิ่ม Follower ใน Twitter เพียงเพื่อหวังจะมีจำนวนคนรับสารประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการเป็นจำนวนมากเข้าไว้และจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในที่สุด โดยผู้ประกอบการเองควรจะพัฒนาคุณภาพของธุรกิจและสินค้าควบคู่ไปด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

1.http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=92320
2. http://www.smeclinic.in.th/Article-detail
3. http://thumbsup.in.th/2011/08/how-social-network-different-from-social-media/
4. http://www.thaigoodview.com/library/contest2553/type1/tech03/26/news.html

ผู้จัดทำ
สิรินทิพย์ หมอทรัพย์
Y34 ID : 5510221061

Unless otherwise stated, the content of this page is licensed under Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 License